#เหมียวติดเกาะ กลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง



เมื่อความสัมพันธ์จบลง เราก็มานั่งย้อนดูอะไรหลายๆอย่าง บวกกับช่วงเวลาจะช่วงเปลี่ยนถ่ายย้ายปี ถ้าพูดจริงๆการขึ้นปีใหม่ มันก็แค่ตัวเลข ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แค่นอนหลับตาตื่นมาก็เป็นวันใหม่ แต่มันก็เป็นช่วงเวลาให้เราทบทวนตัวเองตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำอะไรไป อะไรที่สำเร็จ และ อะไรที่มันพลาด ถ้าฝันดีประจำปี 2019 คือ ทซก. ฝันร้ายของปี 2019 เราขอยกให้ อกร. พูดแล้วก็ตลก ถ้าย้อนไปบล็อคเก่าๆเราแทบไม่พูดถึงนางเลย ทั้งๆที่ในบรรดาเดทปีที่แล้ว เราเดทกับนางเยอะสุด เจอบ่อยสุด ไปไหนมาไหนบ่อยสุด แล้วถ้าจะมีใครสักคนห่วงใยเราพอๆกับบุโจว ก็คงเป็นอกร. (อาจจะน้อยกว่าบุโจวนิดนึง55555) เวลาเราดูหนังมันจะชอบมีบทคนแสนดีที่ไม่ถูกรัก อกร.ก็คงเป็นแบบนั้น ส่วนคนใจร้ายในเรื่องนี้ก็คือเราเอง เราเคยคิดว่าเราต้องชอบเค้าแน่ๆสักวันหนึ่ง ตอนนี้ตัดความสัมพันธ์ไปแล้วก็ยังรู้สึกอยู่ แต่พอมาถึงจุดนี้ผ่านมา 2เดือนแล้วเราไม่รู้สึกอะไรกับการที่เสียเค้าไปเลย ที่เหลืออยู่มีแค่ความรู้สึกผิด กับ ความรู้สึกไม่อยากเจออีก อกร.ทำให้เรารู้ว่าการไม่รักคือไม่รัก และถ้าคนมันจะไม่รักมันก็ไม่รักเว่ย ความรู้สึกจุดนี้มันเปลี่ยนไม่ได้ มีคนบอกเราตลอดว่าลองให้โอกาสใครเข้ามาในชีวิตแบบให้มันเกิน 3เดือนดู (ปกติไม่ค่อยเกินเดือน) อกร.คือคนนั้น เราให้เวลากับนางเยอะมาก ไม่ใช่จะพิสูจน์ตัวพี่แก แต่พิสูจน์ใจตัวเองนี่แหละ มารู้ตัวอีกที คนที่มันจมเรื่อยๆไม่ใช่เราแต่เป็นเค้า แต่เราไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยเว่ย ตั้งแต่เจอวันแรกและวันสุดท้าย วันสุดท้ายก่อนจากกันเรายังจำแววตาของอกร.ตอนนั้นได้อยู่เลย มันโคตรเศร้า แต่เราแค่แบบ ยิ้มมุมปาก ยักคิ้ว แล้วก็เดินโดยไม่มองไปข้างหลัง

.
.
โอเคมันจบไปแล้ว


เรามองย้อนกลับไปว่าเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วเราพามันมาไกลขนาดนี้ได้ยังไง
ย้อนไปตอนสมัย ม.ปลาย เราเคยชอบรุ่นพี่คนนึง ความทรงจำของเราคือพี่คนนั้นโคตรเมิน เมินเหมือนเราเป็นหมาอะ ไม่ให้โอกาสแม้แต่น้อย แต่วันสุดท้ายก่อนจบเค้ากลับเอาเสื้อนร.มาให้ถึงหน้าห้องสอบ แกรรไม่อยากจะเชื่อ(หลังจากโดนเมินเราก็เบาๆกับพี่เค้าไปเยอะ) มาคิดๆดู เค้าคงไม่ได้เกลียดเราหรอก แต่เค้าคงไม่อยากให้ความหวัง ทุกวันนี้เค้ายังฟอลไอจีเราอยู่เลย

ณ จุดนี้เรายอมรับเลยว่าเรามีมุมขี้เหงาอยู่ แต่มันเป็นแค่บางวัน แล้วมันก็ค่อนข้างสั้น จริงๆเราว่าเราค่อนข้างอยู่คนเดียวได้ดี แต่เวลาลำบากๆ เครียดๆบางทีก็อยากหาคนฟัง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เราเดทถี่เหี้ยๆในปีที่แล้ว เยอะจนไม่สามารถบอกจำนวนได้เลย เกือบเท่าจำนวนเดือนในหนึ่งปีอะแก... แล้วอารมณ์เราอะเหมือนรถไฟเหาะมาก นิสัยชอบคนหล่อที่ไม่เคยแก้หาย ทุกวันนี้เริ่มรู้แล้วว่าหล่อไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แล้วก็ไม่ใช่ว่าแค่หล่อแล้วจำทำให้เรา falling ได้ ทุกคนเชื่อไหมทุกคนที่เราเดทปีที่แล้ว หล่อกว่าทซก.หมด แต่เราไม่สามารถมูฟออนจากทซก.ได้เลย (ตอนนี้ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้เจอทซก.นานละถ้าเจออีกอาจจะกลับไปอีกแต่คงไม่ได้เจอแล้ว)

ที่ว่าอารมณ์เราเหมือนรถไฟเหาะ ช่วงเดทแรกๆอารมณ์เราจะแบบเพลงนิชิโนะ คานะ เห็นภาพมะ55555 ช่วงแรกนี่ก็แบบกรี๊ดแกรรชั้นชอบเค้า เค้าไม่ตอบนอนไม่หลับบ (มานั่งคิดตอนนี้คือเป็นเหี้ยอะไรของมึง) ที่ญป.มันจะมีคำพูดที่ว่า ผู้ชายเริ่มจาก100แล้วก็ค่อยๆลงจนเหลือ 0 ส่วนผู้หญิงเริ่มที่0 แต่ค่อยๆขึ้นจนถึง 100 เท่ากับว่าชายหญิงกราฟมันสลับกัน เราได้แต่พยักหน้าว่าเราเนี่ยแหละ สูตรผช. นอกจากเป็นคนแมนๆแล้ว เรื่องพวกนี้ยังแมนๆตาม

ไม่ได้ๆ เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้เว่ย

เข้าปีนี้เราเลยมานั่งตั้งสติใหม่ มองย้อนไปปีที่แล้วว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะ ใช่ เธอไม่รู้จักพึ่งตัวเอง และ พยายามจะเอาคนอื่นมาอุดช่องว่างตรงนั้น ทั้งๆที่ตัวเองก็รักษาตัวเองได้ค่อนข้าง รึพูดอีกอย่างเราแก้ปัญหาผิดจุด เราคิดว่าการหาใครสักคนมันทำให้อุดช่องนี้ได้ แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้ว ว่าถ้าเธออยู่เฉยๆ "เวลา" จะช่วยให้ทุกอย่างโอเคขึ้นเอง


ตอนนึ้ที่เขียนอยู่เดือนมกราคมจบไปอย่างเหน็ดเหนื่อย ทุกคนเคยรู้สึกไหมว่าเดือนมกรามันนาน ปีนี้เป็นปีแรกที่เรารู้สึกอย่างนั้น มันทั้งนานและสาหัส ตัดมาคุยเรื่องงานดีกว่า ตอนนี้เราโดนจับย้ายทีมเรียบร้อย หลังจากยื้อกันมานาน วันหนึ่งบุโจวเดินมาสะกิดเรียกไปคุย แล้วก็บอกว่า เดี๋ยวเดือนหน้าปานิจังต้องย้ายทีมนะ นี่ก็คิดว่าต้องย้ายตั้งแต่เค้าจับไปเรียนCGละแหละ มาอธิบายความพีคของทีมใหม่เราหน่อยดีกว่า ทีมใหม่เราเป็นทีม technicial ที่อยู่ในแผนกเซลล์ คือ เป็นทีมที่งงมาก ส่วนใหญ่ทุกคนจะทำเรื่อง ​ซัพพอร์ตลูกค้า มันเลยเกี่ยวโดยตรงกับสายเอ็นจีเนีย ทุกคนในทีมทำงานในบริษัทมามากกว่าครึ่งชีวิต (พูดอีกอย่างคือทุกคนเก่งและแก่) ชายล้วน เป็นทีมที่ไม่เคยเอาเด็กใหม่เข้า เราถือเป็นคนแรกที่เป็นผู้หญิงและเข้าทีมนี้ทั้งๆที่เพิ่งเข้าบริษัทมาไม่ถึงปี และคิดว่าคงไม่มีใครมาทุบสถิติอายุน้อยนี้อีกนาน นี่ถามคะโจวแล้วว่าจะไม่เอาเด็กใหม่เข้าอ่อ ลุงแกบอก 新人は無理だなー (เด็กใหม่น่าจะไม่รอดปะ) อ้าวแล้วนี่ถามใจนุรึยัง แต่งานเราไม่เกี่ยวกับสายเทคนิคเท่าไหร่หรอก (แต่ก็เกี่ยว) พูดง่ายๆคืออยู่ตรงกลางระหว่าง มาร์เกตติ้ง และ เทคนิค



ก็สนุกสนานเร้าใจดีนะ ก็งมไปทั้งๆที่ไม่รู้นี่แหละ ไม่รู้ก็ถาม หลังจากคะโจวแย่งตัวเรามาจากอีกทีมได้สำเร็จพี่แกไม่รอช้า จัดงานเลี้ยงเล่าถึงความยากลำบากในการตบตีแย่งชิงเอาเมมเบอร์เข้าทีม พี่แกเล่าว่าลำบากตั้งแต่ไปขอเช่ามาตอนแรกสุดละ (ตอนแรกเราได้มาเทรนทีมนี้แค่ 2เดือน ลากมา 6 เดือน จนย้าย) ส่วนทีมใหม่เราก็ต้องเอาเด็กใหม่เข้าปีหน้าแทน เค้าบอกตอนแรกไปขอเช่ามาถ้าใช้ไม่ได้ก็คืน (อ้าวไหนบอกรักกัน 55555) แต่ตอนนี้คือคืนไม่ได้ละ ขาดเราแล้วตายแน่ๆ แกเลยไปขอร้องกับบุโจวแต่บุโจวก็บอกไม่ได้ต้องให้เจ้าตัวเลือกเอง แล้วช่วงเดือนตุลา รึต้นพฤศจิกานี่แหละ เราโดนเรียกไปคุยว่า มาจุดนี้แล้วชอบงานอันไหนมากกว่ากัน นี่ก็ตอบไปกลางๆ แต่ดันปากมาก ไปพูดว่า ถ้าจะให้ย้ายทีมก็อยากให้เทรนจริงๆจังๆหน่อย เพราะที่ทำอยู่ไม่ได้ใช้ความรู้ใหม่เลย แค่ทำสิ่งที่ตัวเองทำได้แบบครึ่งๆกลางๆ (ปากดีอิดอก) เราเลยจับไปเทรนแล้วก็จับย้ายทีมแบบไม่มีใครถามกุสักคำว่าอยากย้ายไหม พอพูดว่าย้ายแล้วดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความจริงเราก็ย้ายแค่ชื่อ นั่งก็นั่งที่เดิมไป เพราะโดนจับนั่งตรงกลางระหว่างสองทีมตั้งแต่ศึกแย่งชิงละ เอาจริงๆเราว่าเราอยู่ทีมไหนก็ได้แหละ งงเหมือนกัน5555555
.
.
.

พูดถึงการเทรน โปรแกรมที่เราต้องเรียนชื่อว่า MAYA ใครที่อยู่สายนี้คงจะพอคุ้นชื่อกันอยู่ (หลายคนอาจจะเคยผ่านมือมา) ใครที่ใช้เป็นแล้วอ่านอยู่ก็ช่วยบอกบุญเราหน่อยนะว่าต้องทำยังไงจะรอด นี่เครียดกับโปรแกรมห่านี้มาพักใหญ่ละ จนทุกคนต้องบอกว่าใจเย็น เพราะมันยาก นี่เรียนอู้ไป เอ้ย แดกไป เอ้ยยย ท้อไป ใช่ เรียนไปท้อไป คือมันต้องจำเยอะ แล้วก็อะไรยัวเยียไปหมดไม่รู้ หัวหน้าส่งมาเรียนเพราะเค้าบอกว่าเราน่าจะรอดสุด ไม่ถามจงถามใจอินี่เลยว่ามีสติปัญญาพอจะยัดอะไรเข้าไปในหัวสมองไหม

โรงเรียนที่เราโดนส่งไปชื่อว่า Digital Hollywood เค้ามีมหาลัยด้วยแหละ สอนพวกสายกราฟฟิก ทำหนัง ทำสื่อ ฝั่งมหาลัยเป็นยังไงไม่รู้แต่เราอะถูกส่งไปเรียนโรงเรียนแยก มีสาขาอยู่ที่ kichijoji สถานที่คนชิคที่น้องเหมียวชอบไปตั้งแต่สมัยอยู่โตเกียวละ นี่เคยคิดว่าถ้าอยู่โตเกียวก็อยากจะอยู่ที่นี่ พอได้มาทุกอาทิตย์แบบนี้ ความรู้สึกนี่ก็กลับมาแรงกล้าอีกครั้ง แต่ขอเก็บไว้ในใจก่อนเพราะยังไม่อยากลาออกเวลานี้ (หมายถึง ณ เวลาที่เขียนนะ วันพรุ่งนี้อาจจะอยากออกก็ได้ 555555)

บรรยากาศโรงเรียนก็จะประมานนี้

(ใครอยากส่องลองกดลิ้งที่รูปไปดูละกัน)

คอร์สเรามีระยะเวลา 4เดือน ค่าเรียนบอกเลยว่าแตะหลักแสนบาท  โหดสัส แต่ถ้าคิดถึงค่าคอมที่ให้ใช้กับค่าโปรแกรม (อิโปรแกรมMAYAค่าลิขสิทธิ์แพงมากกก ตอนแรกคิดว่าจะซื้อขำๆมานั่งเล่นที่บ้าน พับโปรเจคไปเลยจ้า) ระบบการเรียนก็ลองนึกถึงสมัยก่อนตอนกวดวิชาอะ คือจะมากี่โมงก็ได้ จองเวลาเรียน แล้วก็มานั่งดูวีดีโอพร้อมทำ แต่ที่นี่วีดีโอคือดูที่ไหนก็ได้ (แต่คนเรียนคอร์สเดียวกับเราก็ต้องมาใช้คอมที่โรงเรียนอยู่ดีเพราะไม่มีใครซื้อโปรแกรมใช้เอง)

(ขออภัยรูปไม่ชัด ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม555555)

จากภาพก็อย่างที่บอกแหละ ทางซ้ายโปรแกรม ทางขวาวีดีโอ ดูไปหลับไป เอ้ย ทำไป อย่างเราจดโน๊ตไปด้วย (ก็ยังง่วง55555) 

ใครที่คิดว่าดีจังน่าสนใจ อ่านข้อความต่อจากนี้ก่อนใจร่ม

ข้อดีของโรงเรียนนี้คือ โลเคชั่น นางมีหลายสาขา ชิบุยะ ชินจุกุ คิจิโจจิ ซึ่งคอร์สCG ของเรามีแค่ 2 ที่ คือโรงเรียนใหญ่ (แถวสถานีโตเกียว) กับที่ปัจจุบัน 



อย่างสาขา kichijoji เป็นสาขาใหม่ สวยใหม่ เดินไปสวนสาธารณะแปปเดียวเอง 1 นาที
ซึ่งนี่คือข้อดีของที่นี่ นอกนั้นบอกเลย เหี้ย(เกือบ)หมด

ก่อนอื่นบอกเลยว่าเราเอาชีวิตเป็นเดิมพันกับการเรียน CG ครั้งนี้มาก คือ เราต้องไปกลับ โตเกียว-นากาโนะ ทุกอาทิตย์ วันจันทร์กับวันศุกร์เราเข้าออฟฟิซปกติ ส่วน อังคาร พุธ พฤหัส คือไปเรียน ตารางโหดมาก วันอังคารเช้าต้องนั่งรถไฟด่วนไปโตเกียวถึงประมานเที่ยง โรงเรียนเปิด 12.00-22.00 จองได้ครั้งละ 4 ชม. ถ้าคนน้อยจองมากกว่านั้นได้ คอร์สเราไม่มีคนจะเรียนกี่ชม.ได้ แต่เอาจริง แค่3ชม.ก็อ้วกละ อิโปรแกรมนี้เหี้ยตรงที่มันจริงจังมากแก พวกอนิเมชั่นดังๆใช้โปรแกรมนี้หมดเลย พวกหนังของชินไค ก็โปรแกรมนี้ เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีนะ ที่จะได้เรียนอะไรใหม่ๆ อย่างเราใช้พวก photoshop กับ illustrator ได้อยู่แล้ว ตอนแรกก็คิดว่าเฮ้ยน่าสนุก เหมือนต่อยอดความสามารถเก่า พอเอาเข้าจริงคือเหี้ย โปรแกรมก็เหี้ย โรงเรียนก็...



คอร์สเราจะมีเทรนเนอร์มาแค่วีคละ 3วันเองมั้ง ไม่แน่ใจ 
เราก็พยายามเรียนวีดีโอให้จบก่อน มีอะไรก็ปรึกษาเทรนเนอร์ได้ เราไม่ค่อยชอบเทรนเนอร์ที่นี่เลยอะ เราว่าเค้าไม่ได้เก่งพอจะเป็นเทรนเนอร์ คือเค้าไม่ได้รอบรู้พอจะมาสอนใครได้ ในคอร์สนี้เค้าก็จะมีโฟรเดอร์ให้แบบดึงข้อมูลไปใช้เรียน เราก็งงตั้งแต่แรกละว่าข้อมูลกับวีดีโอมันไม่ตรงกับ บางทีก็ไม่มี เราเลยบอกเทรนเนอร์ตั้งแต่วันแรกที่เจอเลยว่ามันแปลกๆนะ นางก็แบบเอออแปลกเนอะ สู้ๆ นี่ก็แบบอะไรวะได้อ่อ ปรากฎว่าเหี้ยตรงไหนรู้ปะ หลังจากที่เราเรียนไปได้เกินครึ่งแล้ว เราก็แบบเฮ้ยอันนี้มันไม่ได้ละ ไฟล์นี้ไม่มีแล้วกุเรียนไม่ได้แน่ๆ (ก่อนหน้านี้ยังถูไถได้) นี่เลยบอกเทรนเนอร์ว่ามันไม่มีไฟล์อะจะเรียนยังไง บังเอิญวันนั้นเป็นเทรนเนอร์คนใหม่มาพอดี เค้าก็บอกเออมันแปลกๆนะ ปรากฎว่าอะไรรู้ปะ วีดีโอที่เราเรียนมันเป็นเวอร์ชั่น 2016 แต่เวอร์ชั่นที่ต้องเรียนคือ 2018 นี่แบบปรี๊ดเลย บอกเฮ้ยยยย แล้วยังไงอะ โรงเรียนก็บอกว่าจะช่วยซัพพอร์ต มันต่างกันไม่เยอะหรอก

ไม่เว่ย ต่างกันเยอะเลย เนื้อหาเวอร์ชั่นใหม่เยอะกว่าอันเก่า แล้วนี่ไปๆมาๆงานกุก็ต้องทำ เวลาคืนมาได้ไหม แล้วเวลาเรียนจะชดใช้ยังไง โรงเรียนก็บอกจะเพิ่มเวลาให้ดูวีดีโอในระบบได้อีก 2เดือน ถามใจเรา ไม่อยากได้เวลาเพิ่ม อยากลาออก อิสรัส แค่เรียนก็ท้อแล้ว ให้มานั่งเรียนใหม่อีกท้อไปกว่าเดิม เซนเซย์ก็อุส่าห์ลิสอันที่ควรดูให้ แต่คือแบบ พูดแล้วก็ท้อ ท้อตรงที่ตอนแรกโม้ไว้ว่าจะทำโปรเจคจบ แล้วต้องเอามาพรีเซนต์ให้บุโจวดู (จริงๆมันไม่ต้องทำก็ได้ แต่ก็ควรทำไง) นี่แบบชิบหายละ กับเวลาที่เหลือจะเอายังไง เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เดือนกุมภาเรายุ่งเหี้ยจนแทบไม่มีเวลาไปเลย จนต้องไปวันเสาร์อาทิตย์แทน เท่ากับเราทำงาน เจะวัน เจะวันไปเรยยยยยย (อย่างน้อยก็ได้เงิน) ตายไม่ตาย 



สำหรับใครที่อยากจะทุบกระปุกมาเรียน จริงๆมันก็ไม่แย่ แต่ถ้าให้จ่ายเองก็ไม่ค่อยแนะนำ เราไม่ได้เพื่อนจากโรงเรียนนี้แน่นอน โรงเรียนก็จะมีพวกแม่ๆกระเตงลูกมาเรียน (อย่างว่าแหละวันธรรมดาถ้าไม่ใช่แม่บ้านใครจะมาเรียนได้) ก็จะมีเด็กวิ่งวุ่นเต็มโรงเรียน เตชะบุญที่เราเป็นคนรักเด็ก ก็เรียนไปเล่นกับเด็กไป ลูกใครก็ไม่รู้


2เดือนเราพังมากจากการเดินทางไปเรียน ความเครียดจากการเรียน ทุ่มเทมากกกกกกก กับอิโปรแกรมนี้ ตอนนี้เริ่มเข้าใจมาได้นิดนึงละ แค่นิดเดียวนะ แบบนิดเดียวว เราว่าหัวหน้าแม่งแกล้งเราแน่ๆ เค้ารู้ว่ายากก็ยังส่งเราไปเรียน เป็นตัวแทนหมู่บ้าน เกินไปปปปปป 

นั่นแหละด้วยเหตุนี้เราเลยไม่มีเวลาไปแอร้วเลย555555 เฮ้ยมันวนมาได้5555555555 ตอนนี้ในหัวเรามีแต่ มายา มายา มายา

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอจบวันศุกร์เราก็ภาพตัดมารู้ตัวอีกทีเย็นวันอาทิตย์แล้ว ช่วงนี้วันเสาร์อาทิตย์เรานั่งทำสิ่งนี้อยู่ อันนี้เคยลงในทวิตไปละ



อันนี้แนะนำมาก ตั้งแต่ได้มันมา นั่งขูดมันทุกวัน เหนื่อยก็ขูดรู้สึกสมองไม่ต้องคิดอะไรดีแล้วก็ไม่วอแวเวลาเหงา เอาจริงๆตอนนี้ไม่ใช่ว่าเราไม่มีคนคุยนะ แต่เรากำลังจะเทแล้ว เพราะเบื่อ อีกอย่างเค้าไม่ค่อยให้เวลาเราเท่าไหร่ ซึ่งนี่ก็คิดละแหละว่าหมดคนนี้ก็คงถึงเวลาพักจริงจังสักที อยู่กับตัวเอง ตอนนี้เราตั้งใจจะหาอะไรที่สามารถเพลิดเพลินด้วยตัวคนเดียวได้ แต่คงต้องรอให้ผ่านวิบากกรรมอิโปรแกรมห่านี่ไปให้ได้ก่อน

เรื่องความรักที่กร้าวที่สุดช่วงนี้มีแค่ไปดูดวงแล้วหมอดูบอกปีนี้จะได้คู่นี่แหละ ที่ดูจะมีหวังสุด
สุดท้ายนี้ เอนทรี่นี้สอนให้รู้ว่า หนาวใจไม่หนาวเท่าห้องประชุมตอนบุโจวเรียกไปคุย

ติดตามตอนต่อปรัยย

ตอนแรกตั้งชื่อเอนทรี่ไว้ว่า how to live-alone แต่เขียนด่าโรงเรียนไปครึ่งเอนทนี่แล้วเลยต้องเปลี่ยนชื่อเอนทรี่ใหม่ ท้อ อดเอโม่ยเลย5555555


0 ความคิดเห็น:

Post a Comment