#เหมียวติดเกาะ เหนื่อยนักก็ไปเที่ยว

ถ้าพูดว่าเป้าหมายนึงของปีนี้คือการก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง นี่พูดเลย ผ่านมาสามเดือนข้ามจนไม่รู้จะข้ามยังไงละ เหมือนแพชชั่นที่อัดอั้นมาตั้งแต่ปีที่แล้วมันระเบิดดตัวออกมาด้วยความอยากมีพื้นที่ให้แสดงออก



กุมภาพันธ์ผ่านไปด้วยความโชกโชน เรื่องงานคือเรียกได้ว่า ยุ่งจนงงว่า เฮ้ยนี่กุมีงานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามแผนแล้วตั้งแต่มกราเราจะเริ่มรับโปรเจคเดี่ยว โซโล่เดี่ยวแบบไม่มีคนคอยช่วยแบบทุกที นี่ก็คิดว่าโอเคนะ เพราะที่ผ่านมาก็เดี่ยว5555555 คือไอ่งานมันก็ไม่มีปัญหาเหมือนเคยแหละ แต่ไม่รู้มันเพิ่มมาจากไหน รู้อีกทีคือ โบ้มมมมมมม แล้วด้วยความที่เราไม่ค่อยอยู่บริษัทด้วยแหละ วีคนึงอยู่2วันเอง แล้วมันมีวีคนึงที่เราอยู่เกือบครบวัน ในรอบหลายเดือน แม่งยุ่งมากกกกกกกกก แต่โคตรสนุกเลย555555 หลังจากผ่านช่วงวุ่นวายแล้ว เราก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการพักร้อน บริษัทมีระบบให้ลายาวได้ปีละ 5 วัน จะแบ่งรึจะใช้ยาวก็ได้ นี่ซัด 5 เลย เพราะที่ผ่านมาไม่รู้หยุดไปเพื่ออะไรหยุดไปก็ไม่มีไรทำ แต่เว่ยยย ในขณะที่พิมพ์อยู่ เราก็กำลังอยู่ในช่วงพักร้อน คนอย่างเหมียวอยู่เฉยๆไม่ค่อยจะเป็นหรอก นี่เป็นวันที่ 5/9 ของวันหยุด 4 วันก่อนนี้คือใช้ชีวิตแบบกินนอนปั่นงาน นี่ก็มาคิดได้ว่าเธอไม่ไปไหนมันจะไม่คุ้มกับวันหยุดที่เธอได้มานะเหวย เราเลยมาเที่ยว คนเดียว เป็นการท้าทายตัวเองว่าที่ว่าเก่งเนี่ย มันไปได้กี่น้ำ ปรากฎว่าหลายน้ำเลยเมิงง ชิวมากกกกกก 

โดยที่ๆเราเลือกมาพักร้อนในครั้งนี้คืออออ จังหวัดกิฟุ!! 
คือเราต้องมาท้าวความหลังกันก่อนเว่ย เรื่องของเรื่องคือ อิวันหยุดเนี่ยถูกกำหนดตั้งแต่พฤษภาปีที่แล้ว ตอนแรกเราก็เลือกเพราะช่วงนี้มันว่าง บวกกับปีใหม่ว่าจะไม่กลับไทย เพราะตั๋วแพง สรุปคือโดนบังคับกลับอยู่ดี (ช็อตเลย) เราเลยเปลี่ยนแผนว่าได้โอเค งั้นด้วยจะไป USJ แทน ปรากฎว่าอะไร ตอนนี้ไวรัสกำลังระบาด อิเหี้ยยยยย ....

ไม่มีแผนสำรองด้วย เพราะไม่มีเวลาคิด ยุ่งเหี้ยๆ พอวันหยุดมาถึงนี่ก็ล่องลอยเลย ตอนแรกว่าจะซื้อนินเทนโดสวิชมาเล่น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นคนเล่นเกมส์ แถมอิที่อยากได้มันไม่มีด้วย ล้อง นี่ไปเที่ยวกับเพื่อนวันอาทิตย์ เพื่อนก็ร่ายมาเลย แล้วก็บอกว่า แกลองไปกิฟุดิ.... เราเลยจิ้ม แล้วจอง แล้วก็มาเลย

เนี่ยข้อดีของการเป็นคนใจเร็ว ไปคนเดียวที่ไหนมันก็คนเดียวอยู่แล้วอะ5555555 

------

ข้อความข้างบนถ้าจำไม่ผิดเราน่าจะเขียนที่เรียวกังตอนไปเที่ยวคนเดียว พออ่านแล้วก็แบบเอออว่ะ ในตอนนั้นรู้สึกแบบนั้นจริง เชื่อไหมช่วงเวลา ราวๆ2เดือนจากวันนั้นชีวิตเราเปลี่ยนไปจนแบบ เฮ้ยทำไมต้องขนาดนี้ แล้วน้องโคโรน่า โควิด นี่คือมันชิบหายกว่าที่เราคิดไว้ในตอนนั้นมาก

ตอนที่เขียนอยู่ก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นรึยัง... น่าจะรอดแหละ

กลับมาเล่าเรื่องตอนไปเที่ยวก่อน นี่เป็นทริปแรกที่เราไปเที่ยวคนเดียวแบบจริงจัง (หมายถึงใช้เงินจริงจังเพราะจบทริปคือล่มจมไปเลย)

ว่าแล้วก็แปะรูปกันก่อนเลย ทริปนี้คือ 3 วัน 2 คืน เรื่อยๆไม่มีแพลน แค่หาข้อมูลคร่าวๆว่าอยากไปที่ไหน เริ่มจากหาก่อนว่าจากบ้านเราอะไปปลายทางยังไง
หลังจากหาข้อมูลแล้วก็พบว่าไปบัสถูกสุด ไว้สุดด้วย เราก็เลยเลือกบัสวันถัดมารอบเช้าสุด (เจ็ดโมงฟ่า ตื่นเกือบไม่ทัน) ไปลงที่ Takayama ก่อน แล้วก็นั่งรถไฟต่อจาก Takayama ไป Gero ใช่แร้น สถานที่ปลายทางเราวันแรกคือ Gero onsen ย้อนไปช่วงกุมภาเป็นช่วงที่หนาววววววววเหี้ยยยยยย

คือในหนึ่งปีช่วงกุมภาคือหนาวสุดแล้วแหละ


ก็หนาวหิมะหนาเบอร์นี้ (ก่อนวันเราเดินทางหิมะตกหนักสุด)


พอถึงจุดหมายแล้ว บอกตามตรงเราก็ไม่ได้หาข้อมูลอะไรของ Gero onsen มากมาย (ไปมาแล้วก็ยังไม่ค่อยรู้) แต่เป็นเมืองที่ถ่ายรูปสนุกมากกก
พอถึงสถานีแล้วเราก็โทรหาที่พักเลยว่าจะเอากระเป๋าไป จริงๆเค้ามีรถมารับแหละแต่มันยังไม่ถึงเวลา นี่ก็เปิดแผนที่แล้วมันใกล้มาก เลยบอกเค้าไม่เป็นไรเดี๋ยวเดินไปเอง 15 นาทีเอง

ปรากฎว่าแม่ เรียวกังแม่งอยู่บนเขา 15 นาที คือปีนเขาตลอดทาง โหหหห หนาวก็หนาวเถอะเจอเขาชันขนาดนี้ เหงื่อแตกเลยจ้า เดินกลับก็ไม่ได้ ไม่อยากยอมแพ้5555
พอถึงเอากระเป๋าไปวางเราก็ออกมาเดินเล่นในเมือง แต่รอบนี้ฉลาดละ โบกแท๊กซี่ลงเขา






เดินเล่นช้อปปิ้งจนถึงเวลาเช็คอินก็กลับสถานีขึ้นรถของเรียวกังไปเช็คอิน (ไม่เดินแล้ว555555)

แดดดีมากกกกก เหมาะกับฟิลม์

เรียวกังที่เราไปพักชื่อว่า Gero Kanko Hotel (下呂観光ホテル)
ขึ้นตัวใหญ่ๆหนาๆเลยเพราะชอบมากกกกกกกกกกกกกกก


พอลงรถปุ๊บเค้าก็จะต้อนรับเราด้วย ชาเขียวและขนม บริการดุจราชา แล้วก็นำเราไปที่ห้อง
เรียวกังนี้ค่อนข้างมีอายุแล้วแหละ แต่คลาสสิค ประดับอะไรดีหมด
เหมาะสำหรับไปเที่ยวคนเดียวมาก เพราะเค้าบริหารแบบคิดถึงที่มาเที่ยวคนเดียว ไม่เหงาเลยจริงจัง


บรรยากาศห้องพัก คือห้องใหญ่มากกกกกกกก วิวสวยมากกกกก (เพราะแม่งอยู่บนเขา55555)



ที่นี่เหมาะสำหรับชะนีเรื่องมากแบบเรามาก เพราะเราสามารถเลือกลายยูกาตะเองได้ จะดอกมาก ดอกน้อยได้หมด5555
แถมมม ยังสามารถเลือกกลิ่นอโรม่าไปเปิดในห้องได้ด้วย

เซอร์วิสต่างๆ



บรรยากาศในเรียวกัง


ออนเซนไพรเวท เค้ามาเป็นคู่นี่ชิคๆคนเดียว5555

ที่นี่มีออนเซนทั้งindoorและ outdoorแล้วก็มีแบบไพรเวทด้วย (จ่ายเงินเพิ่ม) ซึ่งเราจัดทุกแบบ555555
ออนเซนของที่เกโระ(แปลว่าโคลน) สีมันไม่สวยเว่ย แต่ลงแล้วผิวเหมือนกลับมา 14 อีกครั้ง เนียนกริบเลย พูดละอยากไปอีก
ออนเซนนางคือมีแร่ธาตุเยอะ ทำให้ผิวสวย (เราลงไปหลายรอบมากกกกก)

อีกอย่างข้อดีของที่นี่คือ อาหารอร่อย (ค่าอาหารรวมกับค่าที่พักแล้ว) ที่นั่งคือเค้าจัดให้เรานั่งมุมในสุดเลยเว่ย
วันนั้นเหมือนจะมีแค่เราที่มาคนเดียว55555 ผู้หญิงอีก สต๊าฟเป็นห่วงเรามากกก คอยแวะเวียนมาชวนคุยตลอด 4-5 คน
คือพนักงานที่นี่น่ารักมากกกกกก


ซ้ายเป็นลิสอาหารเย็น (เอาจริงอ่านไม่ค่อยออกแต่อร่อยหมด) ขวานี่อาหารเช้า อิ่มจนจะอ้วก

ส่วนนี่คือเราเอง ที่หน้าสด แต่ออร่าความแฮปปี้คือพุ่งมากเลยเอามาแปะให้ดู55555 กลัวไม่เชื่อว่าไปคนเดียว

พอกินข้าวเมาท์มอยกับสต๊าฟเสร็จ (เค้าเห็นเรามาคนเดียวเลยเอานู่นเอานี่มาเซอร์วิสเป็นพิเศษ) กลับห้องมีเค้าก็จัดที่นอนไรให้เรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะมัวกรี๊ดเซอร์วิสของเรียวกัง ซึ่งคืออะไรอันนี้อยากรู้ต้องไปเอง 5555555 

เขียนเหมือนได้ตังค์เลย นี่จ่ายเองหมดเลยนะ 5555555555


...........

ตัดภาพมาที่วันถัดไปเลย เราก็นั่งรถไฟกลับจาก Gero > Takayama 
ที่พักวันนี้ใกล้จากสถานีจริงๆ แบบเดินไปได้ไม่ลำบาก เราก็เอากระเป๋าไปหย่อนเหมือนทุกที แล้วก็ไปเดินเล่นในเมือง
พอกลับมาก็รู้ว้า Takayama เค้าทำPR กับคนไทยเยอะ คนเจอคนไทยเยอะเลย ตอนไป Gero ไม่เห็นจะมี

Takayama ก็จะเป็นฟิลเมืองเก่า ประมานนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีอะไรให้ทำเยอะดี

เสียดายวันนั้นอากาศไม่ดี บวกเราอารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย (พอดี ยูสุเกะ จทค.ประกาศออกจากวงพอดี)
ก็เดินเล่นไปเจอร้านฟิลม์ไว้คุยกับลุง แวะกินก็กลับมาที่โรงแรมเลย คราวนี้โรงแรมที่เราไปพักชื่อว่า Takayama Ouan (飛騨花里の湯 高山桜庵)

จะว่าเป็นเรียวกังก็ไม่เชิงออกแนวเป็นโรงแรมบิส สไตล์เรียวกัง อาหารมีบุฟเฟ่ให้กิน ก็อร่อยดีนะ ข้อดีของที่นี่คือเราสามารถเข้าออนเซนไพรเวทได้ฟรีถ้ามันว่าง
แล้วออนเซนนางก็มีลูกเล่นเยอะดี ใหญ่ ไม่ค่อยมีคน 
ภาพห้องพักแล้วก็ไพรเวทออนเซน แต่เราชอบห้องรวมของที่นี่มากกว่านะ

วิวจากห้องพักจ้า

Takayama นี่เราไม่ได้ทำอะไรมากเลย วันที่2 หมดไปกับการเดินเล่นแล้วก็แช่ออนเซน แช่แบบ มากเท่าที่หนึ่งวันมันจะแช่ได้อะ แช่เสร็จกินข้าว กินข้าวเสร็จแช่ มานอนดูแผนที่ก่อนนอนก็ไปแช่อีกรอบ ฟิน


ที่นี่เหมาะสำหรับคนกลัวอะไรเก่าๆ หลับสบายดี (แต่แอบเห็นมี Tokyu มาเปิดใกล้ๆสถานี อันนั้นก็น่าสนใจนะ ลองหาข้อมูลดู)
ก่อนกลับ เนื่องจากไม่ได้อะไรเลย เราเลยซัดรัวเลย อากาศดีด้วย ถ่ายฟิลม์รัวๆ แล้วก็...กลับ55555555





พิพิธภัณฑ์เทดดี้แบร์ คือน่ากลัวมากกว่าน่ารัก555555

รถบัสขากลับคือเราหลับตลอดทาง แถมลูกค้ามีแค่เราคนเดียว ตื่นมาเจอวิวนี้พอดี เฮ้ออ เป็นทริปที่ดีมากก

เป็นไงบ้าง อ่านแล้วอยากไปเที่ยวมะ ตอนที่เขียนอยู่คือเราได้วันหยุด 16 วัน ปกตินี่คงออกไปเที่ยวที่ไหนสักที่แล้ว แต่แกรรร เราอยู่บ้านทั้งวันเลยเว่ย
เขียนไปก็นั้มตาจะไหล5555555555 จริงๆช่วงก่อนที่โควิดมันจะอาการหนัก เราก็เที่ยวสุดมากก ทริปข้างบนเป็นเดือนกุมภาชะ แต่มีนาจริงๆมีอีกทริปนึง ไว้เราค่อยมาเล่ารอบหน้าละกัน


แปะทิ้งไว้หนึ่งรูป


......................

ก่อนจากไป มาคุยกันนิดนึง นิดเดียวพอ 

ทุกคน เราอายุ 24 แล้วอะ..... 




หมดโคโรน่าจะไปโกคอน...... หลอก

ขอบคุณที่อ่านจบค่า5555555

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment