การเริ่มต้นเป็นอะไรที่ยากสุดบล็อคก็เช่นกัน หลังจากทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ไว้เอนทรี่ก่อนเรารอคอยมาตลอดที่จะอัพเอนทรี่ใหม่ล่าสุด เชื่อไหมว่า2เดือนที่ผ่านมา มันนานนนนนมากกกกกจนเราแทบไม่เชื่อว่ามันแค่2เดือน มันเกิดอะไรขึ้นหลายอย่างมากๆ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ขอบอกเรื่องน่ายินดีสำหรับคนอ่านอย่างนึงก่อน เพราะเอนทรี่นี้ตัวละครยังเดิมๆอยู่ ทุกคนไม่ต้องสับสนแล้วว่าใครเป็นใคร (เราเข้าใจว่าทุกคนเมาตัวย่อ เราก็เมา55555)
ต่อจากเอนทรี่ก่อน เรากับชุนสุเกะไปกินข้าวกันจริงๆไม่ติงนัง จำได้เราตกลงไปกันวันพฤหัส หนึ่งวันก่อนพี่แกย้าย (วันศุกร์มีนัดกับคนในทีมเก่าเรียบร้อยแล้ว)
จำได้แกวันนั้นอินี่ตื่นเต้นมาก ทั้งเรื่องผช.แล้วก็เรื่องงานเพราะวันนั้นมีการถ่ายวีดีโอโปรดักษ์ที่เราต้องเป็นคน direct คือวันนั้นทั้งวันวิ่งวุ่นเลยเว่ย แต่ก็คิดว่าจะพยายามเพราะอย่างน้อยเลิกงานฉันก็มีนัดกับผช.นี่แอบส่องมาตั้งนาน แต่ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้น วันนั้นเราไปทำงานแต่เช้าเลยเว่ย เช้าที่สุดตั้งแต่เข้าบริษัทมาละ (แต่ก็ไม่ได้เช่าขนาดนั้น แต่มันเช้าได้แค่นั้น555555) เราก็จัดการเตรียมสถานที่ เตรียมทุกอย่างเพื่อให้การถ่ายทำบรรลุตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ไม่มีอะไรตามแผนเลยสักอย่าง หนักสุดคืออิโปรดักษ์ที่จะถ่ายดันมีปัญหา อิเหี้ยยย แล้ววันนั้นคนที่มาช่วยเราก็มีแต่รุ่นน้อง 2คน ซึ่งไม่รู้และทำอะไรไม่ได้สักอย่าง คือช่วงนี้บริษัทเราจะเข้างานเป็นชิฟ อย่างแผนกเราจะแบ่งเป็น2ทีม เรากะหัวหน้าเรา(อิคนที่ไม่ทำห่าอะไรสักอย่างที่บ่นเป็นเอนทรี่ก่อนอะ)อยู่คนละทีมกัน ซึ่งเราพอใจกับสิ่งนี้มากอย่างน้อยไม่ต้องพบต้องเจอ เอาจริงๆงานนี้มันเป็นขี้ที่นางโยนมาให้เราด้วยแหละ เราก็รับผิดชอบว่าเป็นงานตัวเอง นางปัดความรับผิดชอบ แล้วส่งเมล์มาหาเราตอนเช้าว่า ก่อนถ่ายให้โทรหานางด้วยแล้วถ่ายให้ดูหน่อยว่าถ่ายแบบไหน คือแก งานนี้เรารับผิดชอบตั้งแต่แรกคนตัดต่อก็คือเรา ทำไมเราจะไม่รู้ว่าที่ถ่ายนี่ต้องทำแบบไหน
ด้วยความที่โปรดักษ์มีปัญหาพร้อมเวลาจองสตูดิโอก็สั้นเหลือเกิน เราเลยไม่ได้โทรหานาง ยอมรับว่าผิด แต่เราก็ทำทุกอย่างจนเสร็จ จนทันเวลา ทีนี้เว่ยนางโทรมาหาเราแล้วเรารับโทรศัพท์ไม่ได้เพราะยุ่งมาก รุ่นน้องเรารับแทนแล้วนางบ่นยาวมากกกก รุ่นน้องแบบไฮ่อย่างเดียวแล้วไม่บอกอะไรเราสักคำ (โคตรเท่ห์แบบโคตรเท่ห์) จนเราถ่ายเสร็จนางโทรมาหาเรา ทีนี้โดนเป็นชุดเลย ตอนนี้จำไม่ได้ละว่าพูดไรบ้าง เราก็ขอโทษ แต่นางพูดจนเราร้องไห้คาโต๊ะเลยจำได้แค่ประโยคเดียวนางพูดใส่เราว่า "すみませんじゃねえよ!承知しましましたと言ったよね承知しましたの意味分からない?" (อย่ามาขอโทษ บอกว่ารับทราบไม่ใช่หรอ ไม่เข้าใจความหมายของคำว่ารับทราบหรอ)แบบตะคอกใส่ทางโทรศัพท์ นี่แบบทำไมกุต้องโดนพูดขนาดนี้ แล้วนี่กุทำอะไรผิด กะอิแค่ไม่โทรหาลุงแก่ๆที่ useless อะ ทำไมต้องโดนด่าสิ่งที่ตัวเองไม่ผิดด้วย พอด่าเสร็จพักเที่ยงพอดี นี่นั่งร้องไห้ไปกินข้าวไปเหมือนนางเอกละครตอนสี่ทุ่ม กล้าพูดเลยว่า ณ โมเมนต์นั้น ไม่มีอะไรเหี้ยที่สุดละ เราเกลียดการโดนตะคอกใส่ทั้งๆที่ตัวเองไม่ผิดมาก จริงๆโดนพูดอะไรหลายๆอย่างใส่นะ แต่อย่างที่ว่าเราไม่อยากรื้อฟื้น บวกลืมไปแล้วมันเหี้ยมากไม่ค่อยอยากจำ
วันนั้นเราก็พยายามทำทุกอย่างจนเสร็จแต่สภาพใจคือมันไปหมดแล้วเว่ย เราวิ่งวุ่นทั้งวันเหนื่อยจนแทบจะเป็นลม เป็นวันที่ยาวนานมากก แต่!!อย่าลืมว่าวันที่ยาวนานยังไม่จบ เรายังมีนัดกับชุนสุเกะต่ออีก แกกกก ขอบ่น วันนั้นมั่นใจมากว่าตอนเช้าแต่งหน้ามาดี แต่วันนั้นก็ร้องไห้จนเสียท่าเหมือนกัน สภาพเราคือ คสอ.ไปหมดแล้ว เหลือแค่อายไลนเนอร์
พูดแล้วก็ขายเลยต้องให้เขา loveliner (ส่วนตัวเราใช้เสียงน้ำตาล)ไปซื้อมาใช้กันนะ 5555 ตานี่คือบวมแบบคนร้องไห้มาหนักๆอะ ตอนนั้นคิดเลยว่า ถ้าจะนกเพราะเรื่องนี้มันจะเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตแน่ๆ วันนั้นเรานัดกับชสก.ว่าจะออกบริษัทพร้อมกันตอน หกโมงครึ่ง นางก็ไลน์มาหาเราว่านางพร้อมละนะ แต่เราคือแบบยังออกไม่ได้เลยแบบขอโทษนะ นี่น่าจะช้าอะ จะกลับก่อนก็ได้นะ นางก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวนางออกไปรอในรถก่อนละกัน (บริษัทเราค่อนข้างซีเรียวเรื่องOTห้ามทำเกินกี่โมงบลาๆ แต่แผนกเราไม่ค่อย เพราะอะไร เพราะเทอคือเอเกียวว) นี่ก็รีบปั่นแล้วก็ออกมาตอนทุ่มนิสๆ ก็ไลน์บอกนางว่าเสร็จแล้วนะ นางก็ให้เรายืนรอแล้วก็เดินมารับ
แกเดินมารับ ไม่ใช่วนรถมารับ แถมอุส่าห์รอด้วย ฮือออ นางก็เดินมารับเราแล้วก็พาไปที่รถนาง เห็นสภาพเราก็คงรู้ว่าผ่านสนามรบมา นางก็เลยถามว่าไหวรึเปล่า นี่ก็เล่าให้นางฟังความชิบหายของวันนี้ (ไม่ร้องแล้วนะ) นางก็นั่งปลอบเราอยู่ในรถอย่างนั้นอะ ครึ่งชม.จนแบบ ปะไปกินข้าวกัน อยากกินอะไรล่ะ (เอาจริงตอนนั้นเราเหน่ยมาก กินไรไม่ลง ผช.หล่อก็ทำอะไรไม่ได้ มันเกินจุดนั้นไปแล้ว55555) เราก็เลือกส่งๆแล้วนางก็พาไป วันนั้นเรากับชุนสุเกะคุยกันนานมากกก คุยกันยันเรื่องครอบครัวอะ แบบพี่น้อง พ่อแม่ งานอดิเรกบลาๆ คุยจนร้านปิด ร้านไม่ปิดก็คงไม่กลับ จำไม่ได้จริงว่าคุยไรบ้าง แต่ยิ่งคุยยิ่งรู้เลยว่าผช.คนนี้เราอ่านไม่ออกเลย แต่แบบไม่ไหวแล้วสเปคมาก55555 และดูไปดูมาดูคล้ายๆทซก.มากกกก ตาคล้ายๆกัน เวลาคุยชอบจ้องตา จ้องแบบจ้องไม่กระพริบเลย แบบเวลาเราคิดจะมีนิสัยเอียงคอค้างเว่ย แล้วนางก็เอียงตามแล้วก็จ้อง ตาแป๋วๆ นางดูเอ็นดูเรา แต่ตายย ถ้าเป็นปลากัดก็ลูกเป็นทีมฟุตบอลละอะ..
ทีนี้ตอนจ่ายเงินเว่ย เราก็หยิบใบไปจ่ายแล้วเดินนำไปก่อน นางเดินมาจากข้างหลังเอาแขนมาบังแล้ววางเงินแหมะ เราก็แบบยื่นเงินให้ นางก็พูดว่า "ไม่เป็นไรๆกลับมาร่าเริงซะนะ" .....
แกรรรรรรรรรรรรร เกินไปปปปปปปปปปป ทำเกินไปปปปปปปปปป อธิบายก่อนชุนสุเกะเป็นผช.คูลๆไม่ใช่คนพูดน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดมากกลางๆกำลังดี ตัวสูง(ตามสเปคเหมียว555) เสียงต่ำมากกกก ที่ญี่ปุ่นจะชอบเปรียบเทียบหน้าตากับดาราว่าหน้าเหมือนใคร เราให้ชุนสุเกะ คล้ายๆพิโทริ เดอะผัวเลย คือนางหล่อไม่เท่า แต่คล้ายสีผิวก็เข้มๆนิดนึง เป็นคนoutdoor ชอบเล่นบาส แล้วก็เล่นเบสงี้ แกงานอดิเรกก็หล่อละ5555 กุจะบ้าตาย คนแบบนี้จะเอาฉันไปทำแฟนหรอ
หยุดเพ้อกลับมาเส้นเรื่องเดิมก่อน
พอกินข้าวเสร็จนางก็ขับรถมาส่งเราที่บ้าน ทั้งๆที่มันอ้อมบ้านนางมาก คือจากบ้านเราไปบ้านนางห่างกันประมานครึ่งชั่วโมงอะ ซึ่งครึ่งชั่วโมงญี่ปุ่นไกลนะ เพราะรถมันไม่ติด จากนั้นก็บายๆกันไป ในรถก็คุยกันว่าช่วงนี้นางไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่เพราะกำลังจะย้ายแผนกแล้วก็เพิ่งย้ายบ้าน ต้องทำเรื่องบลาๆ เราก็แบบเออ รับทราบไป แต่แกก็ไม่คิดว่าจะไม่ว่างขนาดนี้.... (พิมพ์มาตั้งนานยังไม่ครึ่งเรื่องเลย555)
หลังจากวันนั้นมาเราหยุด คือทำไม่ไหวแล้ว หยุดไปหายใจ หนึ่งวัน จากนั้นเราก็อยู่ในช่วงดาว์นอยู่เดือนกว่าอะ ใครที่อ่านบล็อคเรามาตั้งแต่ก่อนมาญป.จะรู้ว่าเราเป็นคนที่อัพดาว์นค่อนข้างแรง รอบนี้เป็นการดาว์นที่แรงมาก ถึงขั้นที่มีอาการเจ็บหน้าอกตลอดเวลา ตอนเช้าไม่อยากตื่น ไม่อยากทำงานไม่อยากทำอะไร ไม่รู้จะผ่านมันไปยังไง ตอนนี้ผ่านมาได้แล้วเลยมานั่งเขียนให้ทุกคนอ่านได้ อย่างที่เคยบอกข้อดีของเราคือเป็นคนลืมเรื่องแย่ๆง่าย แต่เป็นคนคิดอะไรวนไปวนมา เชื่อไหมช่วงที่เราจิตตกอะ พอใจเรามันไม่ได้ อะไรๆมันก็ไม่ดี ทั้งเรื่องงานเรื่องความรัก ตอนนั้นเราไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเราแต่แค่หายใจก็เหนื่อยแล้วอะ ด้วยความที่โดนบั่นทอนมาเรื่อยๆ จนเกิดระเบิดรอบใหญ่ แล้วก็ยังโดนบั่นทอนต่อ คือใจมันต้านไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นก็เริ่มคิดละแหละว่า มันต้องมีวันที่เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ไหวแล้วก็ได้
ช่วงนั้นเข้าวัดทุกอาทิตย์เลย ร่างกายต้องการ Power spot นอกจากเรื่องงานจะไม่ค่อยรอดแล้ว เรื่องชุนสุเกะก็ไม่รอดเว่ย เราก็ยังคุยไลน์กันเหมือนเดิมแหละ แต่ก็น้อยลงเพราะนางก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง แล้วก็ไม่มีท่าทีที่มันจะพัฒนา เอาจริงๆเราก็มารู้ตัวว่าหวังกับนางไว้เยอะเหมือนกันแฮะ ตอนเจอกันก็คิดแหละว่าผช.คนนี้ต้องใช้เวลา และแน่นอนว่าน่าจะเจ็บหนัก(กรณีเจ็บตัวนะ555) พอนัดจะเจอก็ไม่ว่างๆๆๆๆ ไม่รู้แม่งจะไม่ว่างอะไรนักหนา ผ่านมา3เดือนไม่รู้ความสัมพันธ์นี้มันพัฒนารึยัง555555
เรื่องงานพอเวลาผ่านมาสักพักนึงทุกอย่างก็กลับไปเป็นแบบเดิม แบบไม่รู้สาเหตุ เรากับหัวหน้าคือต่างคนต่างทำ นางปาอะไรมาเราก็ทำ แล้วถ้างานที่เรารับผิดชอบ เราก็รับไปคนเดียวเลย หัวหน้าก็กลับมาเป็นคนแบบเดิมแบบปีที่แล้วในตอนที่เรายังทำงานด้วยกันง่ายเหมือนเดิม แต่พิมพ์ไปที่ก็กลัวนะ กลัวนางผีเข้าอีก ตีกันรอบนี้อาจจะออกจริงๆก็ได้นะ
ช่วงนี้แผนกเรากลับมาสนุกอีกครั้งตั้งแต่มีรุ่นน้องเข้ามา รุ่นน้องเราชื่อ ชิโอฮาระคลุง (คนที่รับโทรศัพท์ให้ข้างบนยอมโดนด่าแทนเรานี่แหละ) ถ้าย่อชื่ออีกทุกคนจะจำได้มะ ชอฮร.คุงเกิดปีเดียวกับเรานะ อายุเท่ากัน แผนกเราขึ้นชื่อมากว่าเรื่องความลุง มีแค่เราที่เหยียบเลข2 พอมีชอฮร.คุงเข้ามาก็เหมือนเพิ่มความเฟรชให้คนในทีม เราก็ด้วย ชอฮร.คุงมีความเป็นรุ่นน้องสูงมาก คืองานเรากับนางอะ ไม่เกี่ยวกันเลยเว่ย 5555 ไร้ซึ่งความสัมพันธ์กันใดๆ แต่นางชอบมาวอแวกะเรา จะใช้คำว่าอ้อนยังได้เลย วันนึงเดินมา 2-3 ครั้ง ปาณิศาซางงงง ถามนู่นนี่ ปกติในแผนกจะมีเรากับคะโจวตบมุกกันอยู่2คน พอมีชอฮร.คุงเข้ามาก็มาช่วยตบมุก5555555 (ทำอะไรกัน) หลังๆจากนั้นทีมตบมุกก็เริ่มแพร่กระจายกลายเป็นตบมุกกันแทบทั้งแผนก555555 เนี่ย ความสดใสมันมีอยู่จริง เข้าใจแล้วว่าพลังเยาวชนมันเปลี่ยนบรรยากาศได้จริงๆ
เอาจริงๆในช่วงที่เราจิตตกที่ผ่านมาได้เพราะคะโจวเลยก็ว่าได้ คือพี่แกยุ่งแต่ก็ยังคอยเป็นห่วงเป็นใยเดินมาปล่อยมุกกับเรา คะโจวเราจะมีความหน้าตาแบบนี้เลยเว่ย ☺️เป็นแปะยิ้ม เป็นคนที่หน้าตารับแขกตลอดเวลา แล้วก็ไม่เคยโกรธ (อย่าโกรธเลยด้วย) ใจเย็นนนน แล้วก็มีเวลาให้เสมอ คือคนเดียวที่คุยกะเราเวลาทำงานได้(ทั้งๆที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่)ก็คะโจวนี่แหละ แล้วพี่แกเป็นคนมูมาก คือเชื่อเรื่องUFOอย่างจริงจัง แต่เชื่อในแง่วิทยาศาสตร์นะ คือแกเชื่อเรื่องลี้ลับ (
อันนี้เราเคยเล่าในทวิตไปละ) ล่าสุดตลกมาก ยืนคุยกันเรื่องอะไรไม่รู้(ปกติไม่ค่อยมีสาระหรอก) นางก็พูดว่าเนี่ย แขนนางมีรอยปริศนาเหมือนมีคนบีบ แล้วยื่นให้เราดู เออจริงเว่ย แขนเหมือนมีคนบีบแรงๆอะเป็นเหมือนรอยนิ้วมือคือหนักด้วยนะเขียวเลย นางก็บอกว่านี่ไม่ได้ชนอะไร นี่ก็แบบอะเระะ หรือว่าจะผี นางก็แบบแน่ๆ!! (จริงจัง) ผีแน่ๆไม่งั้นใครจะทำ นี่บอกเดี๋ยวๆ(ทำไมพูดเองต้องแก้เองวะ5555) ตอนหลับเผลอบีบเองรึเปล่า นางก็แบบบ้าใครมันจะมาบีบแขนตัวเองจนเขียว แล้วผีที่ไหนมันจะมาสนใจบีบแขนคะโจวฮะ5555555
นี่คือตัวอย่างบทสนทนาของเรากะคะโจว5555555
กลับมาที่เรื่องชุนสุเกะ จากวันนั้นไม่มีท่าทีจะได้เจอกันอีกเลย จนเราตัดสินใจจะตัดใจอย่างจริงจัง(รอบที่5) แบบรอบนี้จริงๆละไม่ไหวละ ไม่เคยเจอผช.โนแอคชั่นขนาดนี้ ท้อ นี่เค้าเทแล้วแน่ๆแต่ชั้นตื้อเป็นบ้าคนเดียวรึเปล่า ทุกคนก็บอกว่ามึงใจเย็น แต่ไม่มาเจอเลย แถมไม่ค่อยจะตอบไลน์แม่งไม่คืบเลยอะ นี่เลยไปบอกเซมไปที่แนะนำให้ว่าแบบ ไม่ไหวแระ นางก็บอกเราว่างั้นจะปล่อยไปแบบนี้เลยไหม แล้วจะเสียใจรึเปล่า นี่ก็แบบจริงๆไม่อยากให้จบแบบนั้นเพราะวันนั้นเราแย่จริง อยากเจออีกสักรอบในตอนที่พร้อม นางก็ยุให้สารภาพไปเลยว่าชอบ แล้วนางก็ติดต่อให้เลยว่าแบบเราอยากเจออีก ชสก.ก็บอกได้ๆ คือชสก.นางตอบเพื่อนเร็วนะ.... (แต่เราก็เป็น)
เราเลยชวนชุนสุเกะไปกินข้าวอีกรอบ นางก็ตอบมาว่าโอเค คราวนี้วันเสาร์ด้วย จริงๆนางมีนัดอื่นแหละ (คือนางมีนัดกับเพื่อนทุกอาทิตย์ไม่รู้จะคนเหงารวมกันอะไรขนาดนั้น รึนางหลอกเราก็ไม่รู้แต่น่าจะจริงเพราะอะไรเดี๋ยวเล่าต่อ) รอบนี้เราจริงจัง คือสวยสุดละได้แค่นี้555555 นางก็บอกจะมารับเราที่บ้าน (ตอนแรกเราคิดว่าแล้วว่าเฮ้ยถ้าไม่มารับนี่ไม่มีใจแน่ๆจะตัดใจ ก็ตัดไม่ได้5555) นัดเรา11โมง แต่ตอนเช้านางก็ทักมาว่าขอเลื่อนไปบ่ายโมง นี่นอยด์ละ ทำไมว้าา ตอนแรกจะไปกินข้าวเที่ยงกันไม่ใช่อ่อ.. ปรากฎว่าคืนก่อนหน้านั้นนางไปโต้รุ่งร้องคาราโอเกะ อ้าวเป็นคนแบบนี้หรอ パリピ (พวกชอบเที่ยว)อ่อ? ไม่ใช่ละ ไม่ได้ชอบคนแบบนี้ (คิดในใจ) นางก็บอกว่าขอโทษเมื่อวานไปดื่มกับเพื่อนถึงตี1 แล้วไปคาราโอกะต่อยันเช้า เพื่อนชวนเลยไป เราก็เออ ออ เอาที่สะดวก ประเด็นเว่ยนางซื้อกาแฟมาง้อ พอเราขึ้นรถก็ชี้ว่า อันนี้กินได้นะ เราก็อ้ออแต้งกิ้ว พลิกแก้วดูคือสตาร์บัคลาเต้ เราแบบตกใจมาก เพราะเราเคยคุยกันว่าเหมียวชอบกินกาแฟ แล้วเป็นสตาร์บัคเฮฟวี่ยูเซอร์แต่สั่งแค่ ลาเต้ คือพูดลอยยมากกกกแต่นางจำได้😂😂แต่ของตัวเองสั่งอย่างอื่นนะ เราก็บอกแต้งกิ้วๆนางก็พูดว่า ขอโทษนะทำให้ต้องรอตั้งนาน ตายกุไม่รอดแน่ๆ
แล้วนางก็สัมภาษณ์เราว่ารู้จักYคุงใช่ไหม? Y เป็นเพื่อนนางแหละ เราก็บอกรู้จักแหละ เคยพาเราไปสกีรอบนึง ชสก.ก็บอก เออYก็ว่างั้น เดี๋ยวๆๆๆเธอเอาเรื่องของเราไปเล่าให้เพื่อนฟังอ่อ จากนั้นนางก็สัมภาษณ์ยาวเลย ไปกี่คนใครบ้าง อะไรยังไง ทำไมไปได้ (ทำไมหึงอ่อ55555) คือYอะเคยเต๊าะเรา ไม่เชิงเคยหรอก ก็เต๊าะเราเรื่อยๆ เจอบ่อยตามห้องพักบ่าย วลีเด็ดของนางคือจะรอนะ จะให้เลี้ยงกาแฟกี่รอบก็ได้55555
กินข้าวรอบที่สองก็แค่กินข้าวอีกละเพราะนางมีนัดต่อ แล้วนางก็มาเราไปส่งถึงบ้าน เหมือนแค่พาเราไปกินข้าวแล้วพามาส่งอะ แต่รอบนี้เราชิวมากแต่นางดูเกร็งๆ นี่ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่ามันต้องนิดนึงล่ะวะะ นางต้องชอบเราบ้างแหละวะะ ก็ถ้ามันจะจบรอบนี้ก็จะให้มันจบไป เพราะอย่างน้อยเราก็ทำเต็มที่แล้ว สุดท้ายเราก็ไม่ได้สารภาพอะไรไป แล้วก็หวังว่ามันจะมีรอบที่3 คราวนี้อยากไปเที่ยวสักที่ อยากได้เวลานางมาสัก1วัน ถ้านางยอม อาจจะสารภาพก็ได้นะ คนเรามันต้องไปให้สุดดิ เอาใจช่วยเราด้วย5555 /จริงจัง
สุดท้ายนี่นางพูดถึงทซก.คุงด้วย บอกว่าไม่ได้คุยกัน แล้วคงไม่ได้คุยกัน นางไม่ค่อยกล้าคุยกะคนอื่น (ทซก.ก็ด้วย) ดีละ อย่าคุยกันเลย ขอร้อง555555555
สรุปเหมียวกับชุนสุเกะยังไม่จบบบบ หรือจบแล้วก็ยังไม่รู้ ตอนนี้เราคุยกับนางคนเดียวด้วยสิ
เอาใจช่วยเราด้วยย..
You Might Also Like
1 ความคิดเห็น
เอาใจช่วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :) สู้ๆ
ReplyDelete