อย่างที่เปรยๆไว้ตอนเอนทรี่ก่อนว่า เดทเพื่อมูฟออนเยอะมาก ใช่เรากลับไปพึ่งแอปแหละ มันเหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายเว่ย การตอบข้อความคนครึ่งร้อยทีเดียวมันไม่ง่ายเลย คนมากมายแต่สุดท้ายก็ว่างเปล่า เรื่องแบบนี้ไม่โทษใครจริงๆโทษตัวเองที่เลือกเยอะ (แต่คนเรามันก็เลือกปะ) อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณเลย คนไหนคุยถูกคอก็ลองไปกินข้าวด้วย เชื่อมะ ไม่มีคนไหนได้ไปต่อเลย นี่เทรีบกินรีบกลับก่อนตลอด รู้สึกสุดท้ายคนที่ไม่พร้อมสุดคือเรานี่แหละ เราเลยพอๆก่อน กลับไปโฟกัสอย่างอื่น
อย่างที่ว่าแถวที่เราอยู่ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คนในบริษัท แล้วถ้าจะหาแฟนแถวนี้ที่ศีลเสมอกันก็คงหนีไม่พ้นคนในบริษัท อันนี้ไม่ได้จะอะไรนะ คือด้วยความที่เราอยู่ตจว. บริษัทที่ดีที่สุดแถวนี้ ทั้งเรื่องสวัสดิการ เงินเดือน การศึกษาก็หนีไม่พ้นบริษัทเรา การไปเดทกับหลายๆคนรอบนี้รู้สึกเลยว่า เออศีลแม่งไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่อง คือสลิ่มญี่ปุ่นอะ (เจอมาเยอะมากละ) วิชั่นเค้าแคบ ซึ่งเค้าก็ไม่ผิดแหละ เราบอกแล้วเราผิดเอง ลองจินตนาการดูการจะคบกับคนต่างชาติได้มันต้องเปิดใจระดับนึงเลย แม้เค้าจะเปิดใจไปเดทกับเราเพราะอาจจะคุยถูกคอรึ ชอบเบ้าเรา(?) แต่พอคุยกันจริงๆมันไม่ได้ ต่างจากตอนเดทกับผช.ในบริษัทตัวเอง ยกตัวอย่าง ทซก. อกร. หรือจะ ชสก.เอง เค้ายอมรับเราที่เป็นเรา เรายังสัมผัสจุดนั้นไม่ได้จากผช.ที่พบปะมา ยิ่งเดทยิ่งท้อ ไม่อยากพูดเจาะรายคนเพราะจะดูเป็นคนปากร้าย อ้าว ไม่ทันแล้วหรอ เอาเถอะ เรื่องที่จะเล่าต่อนี้น่าสนใจกว่า ลืมๆบรรทัดบนไปก่อน55555
มันก็มีคนๆนึงที่คุยถูกคอมากเลยเว่ย ถูกคอจนรู้เลยว่าอินี่บ.เดียวกันแน่ๆ ผีเห็นผี ตบมุกไปในทางเดียวกัน เราว่าเค้าก็คิดเหมือนกัน แกล้งถามกันไปมาจนแบบ เอออบ.เดียวกันนี่แหละ เป็นรุ่นพี่เรา 1 ปี คุยกันถูกคอมากจนคิดแหละว่าจะสานต่อ เราขอเรียกว่า ทัตจังละกัน มีวูบนึงคิดด้วยว่าเอออชีวิตต้องการคนแบบนี้ ได้กลิ่นเดียวกับทซก.เลย คือเค้าพูดสิ่งที่เราอยากฟัง (นี่ก็เอาแต่ใจไง5555) แต่ถ้าแค่นั้นมันจะไม่พีคพอ วันดีคืนดีไม่รู้ทำไมคุยกันเรื่องเคยกิ๊กกับเพื่อนรุ่นเดียวกันไหม นี่ก็เป็นคนตรงๆไงถามก็ตอบ อ๋อถ้าเพื่อนอะไม่มี (ลืมไปว่ามี) แต่ถ้ารุ่นพี่อะมี แล้วนางก็ทายแล้วเสือกทายถูกว่าเป็นชซก. (นางย่อ ชซก.ว่า DS นี่ก็แอบคิดว่าเออเปลี่ยนมาย่อแบบนี้คนอ่านจะจำง่ายกว่ามะ แต่ถ้าคนญป.มาอ่านจะโป๊ะไหม) สรุปพี่แกเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกับชซก. ซึ่งเราก็รู้จักดีเพราะเคยเล็งไว้เหมือนกัน ไอสรัสพีคมาก อาจจะไม่ได้เขียนในบล็อค แต่ในแก๊งที่เราชอบเมาท์มอยกันมันมีรูปในตำนานรูปนึง เคยลงในทวิตแต่ลบไปแล้วด้วย มันเป็นรูปตอนเราเข้าบริษัทช่วงแรกเลย ถ่ายอวดเพื่อนว่าเมิงงบริษัทนี้มีแต่ผช.หล่อ ในรูปนั้นมารู้ทีหลังว่ามีชซก.อยู่ แล้วก็มีทัตจังอยู่ในรูปด้วย แบบแกนี่เคยเห็นกระทั่งเค้าเดินจูงมือกับแฟน(เก่า) แล้วกรี๊ดกับเพื่อนว่าแบบบมันน่ารักมาก อิจแฟน
ทัตจังก็บอกบุญเราว่า รู้ยังว่าชสก.มีแฟนแล้ว .... เหมือนโลกถล่มเลยแก เคยคิดว่าไหว เคยคิดว่ามูฟได้แล้ว คุยไปคุยมาคือได้จาก 街コン (งานอีเวนท์หาคู่รวมคนเยอะๆ ที่แบบใจไม่ถึงก็คงไม่ไปอะ) นี่แบบอ๋อเค้าเลือกทางนั้นสินะ เอาจริงก็รู้แหละว่าชสก.ก็ออกแนว play นิดนึง เรารู้ดีว่าเค้าชอบผู้หญิงตัวเล็ก (เคยเห็นแฟนเก่ามาแล้วใส่ส้นสูงยังตัวเท่าคางเราที่ใส่รองเท้าธรรมดา) เราไม่รู้จะบรรยายความช็อคที่เรารู้สึกออกมาเป็นตัวอักษรยังไงมันพูดยากเพราะเราก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร แน่นอนว่าเรายอมแพ้เรื่องชสก.ไป 100% แล้ว
หลังจากรับรู้เรื่องดังกล่าวจากทัตจัง เราก็แอบนอยด์ไปพักนึง (2-3วัน) แต่อีกแง่นึงตอนนั้นกับทัตจังก็เหมือนจะไปได้ดี เป็นความสัมพันธ์ที่ดี (ตอนนี้ก็อีกเรื่องนึง) จนผ่านไปได้อาทิตย์นึงเรามีนัดไปถ่ายรูปซากุระกับเพื่อนเว่ย ทุกคนคิดออกใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
ขอเล่าละเอียดหน่อยละกัน
วันเกิดเหตุเรานัดกับเพื่อนสาวที่ไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรก นางนัดนี่แต่เช้าเลยเว่ย เห็นว่าถ้าไม่รีบไปคนจะเยอะ แต่ตอนไปถึงนี่ก็เยอะละนะ ต้องจอดรถข้างล่างแล้วปีนขึ้นไป พอขึ้นไปชั้นบนสุด อิเพื่อนทำแว่นหาย คือนางแขวนแว่นไว้ที่กระเป๋าข้างนอก(ใครเค้าเก็บของสำคัญไว้แบบนั้นกันวะ) แล้วก็งอแง เดินขึ้นลงเขาเพื่อหาแว่น เป็นชะนีญป.งอแง งอแงเบอร์ไปแจ้งความอะ วันนั้นเราอารมณ์เสียกับอิเพื่อนมาก อารมณ์เสียจนกลัวความนิสัยเสียของตัวเองอะ คือแว่นมันไม่แพงซื้อใหม่มะ แว่นหาอะไม่โกรธแต่รำคาญที่แบบพูดอยู่นั่นแหละ ให้นึกภาพถึงอนิเมนะ ที่มีตัวละครพูดตลอดเวลา เหมือนเสียงในใจดังอะ เชื่อว่าจะเจอ คนญป.ใจดีจะมีคนเก็บให้แน่ๆ บลาๆ รำคาญที่ไม่ได้พูดติดฮาแต่พูดแบบ โว่ยยช่างเหอะ โมโหอีกอย่างที่นางถ่ายรูปให้เราไม่สวย(อินี่ก็โมโหแล้วพาลไปเรื่อย) จนตัดสินใจกลับเดินลงมาที่จอดรถจะเดินไปเข้าห้องน้ำ นี่เห็นผช.ที่ดูออร่าแล้วก็คือหล่อ คือไทป์แน่ๆยืนรอใครสักคนอยู่หน้าห้องน้ำ ใช่ ใช่แล้วจ้าา เราเจอชสก. มากับแฟนแน่ๆ นี่ไม่รู้ว่านางรู้ว่าเราอยู่แถวนั้นไหม เพราะเราเดินผ่านหน้านางแต่ก็พยายามปิดหน้านะ ตอนนั้นถ้าทำได้ก็อยากจะมุดแผ่นดินหนีอะ เกลียดความที่ก็ยังเป็นคนเสือกแอบยืนดูแฟนเค้าเออ น่ารัก... ตัวเล็ก รู้แล้วเธอชอบคนแบบไหน ฉันคงเป็นไม่ไหวแม้ต้องการแค่ไหนจริงๆ ชัดเจน
รู้แหละ ว่าเค้าชอบผู้หญิงตัวเล็ก คือแฟนใหม่นางใส่ส้นเตารีดแล้วยังสูงแค่ไหล่ แสดงว่าก็มีความตัวเล็กพอสมควร นี่เคยเห็นแฟนเก่านางก็ไซส์นี้ เอออ ฉันเป็นผู้หญิงสูง 166 ไง ทำให้ไม่ได้จริงๆ พอเห็นภาพอย่างงี้ก็ดีนะ เราไม่ชอบยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้ว ตอนทซก.ก็ออกห่างได้เพราะเค้ามีแฟนนี่แหละ พอเห็นอะไรชัดเจนแบบนี้ก็ดี จะได้จบๆกันไป คราวนี้จบจริง มูฟออนอย่างว่องไวไม่มีอะไรติดค้าง เจ็บแต่จบ
พอจะมูฟก็มูฟแล้วไม่รอแล้วจ้ามาก แต่การมูฟออนสำหรับเราไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าใครที่ติดตามมาตั้งแต่ไหนแต่ไร (ตั้งแต่ exteen 55555) ทุกคนจงจะสัมผัสความเวียนเทียนของเราได้ ซึ่งแม้ตอนนี้เราจะอายุแต่ 25 แล้ว แต่สิ่งนี้ไม่ได้แตกต่างจากตอน 15 เลยแกร พูดไป ปัจจัยที่จะทำให้เรามูฟออนได้มีอยู่ 2 อย่างคือ 1.เวลา(ซึ่งจะนานมากกกกกก) 2.คนใหม่ ซึ่งแน่นอนจะมีวิธีการมูฟออนไหนดีเท่าการหาคนใหม่! เราไม่รอช้าเว่ย สัปดาห์ถัดมาเราบุ๊คกิ้ง 街コン ทันที5555555555555 (ต่อไปนี้จะเรียกทับศัพท์ว่า มะจิคง)
คำว่า 街コン มันมาจาก 街(เมือง)+婚活(การหาคู่แต่งงาน ) มันจะต่างจาก โกคง ที่เป็นการแนะนำเพื่อนกับคนรู้จัก มะจิคงคือตามชื่อเลยจัดในเมือง จะมีบ.จัดงานแบบนี้อยู่(ซึ่งแม่งจัดถี่จนงง) แล้วคนที่ต้องการอยากหาคนรู้ใจก็สมัครไปผช.ราคาประมาน 6,000 เยน ส่วนผญ.ฟรีบ้าง รึจ่าย 500 เยน เป็นการจ่ายเงินที่ไม่คุ้มมากเพราะไม่มีอะไรให้แดกเลยนอกจากน้ำเปล่าแก้วเดียว(อันนี้งอนจริง) มะจิคงเป็นอะไรที่เราหลีกเลี่ยงมาตลอดแม้จะมีคนบอกให้ไปหลายครั้ง เพราะถ้าโป๊ะเจอคนที่รู้จักมันจะเป็นอะไรที่เหี้ยมาก(แวดวงแถวนี้มันแคบโอกาสเจอสูงมาก) ถ้าเจอคนดีก็รอดไป แต่ถ้าเจอคนไม่ดีก็จะโดนเอาไปเมาท์ว่าอิเหมียวไปมะจิคง เอาจริงๆอยากไปมานานละเพื่อหาคอนเทนท์มาเขียนบล็อค5555 ครั้งนี้ตัดสินใจไปเพราะปัจจัยหลายอย่าง 1 คือความตั้งใจจะออกสูงมาก คิดว่าถึงโดนเมาท์ไปยังไงปีนี้กุก็จะออกช่างแม่ง บวกกับความอกหักขั้นรุนแรงทำให้จิตใจคนเราพร้อมทำสิ่งที่ไม่คิดจะทำมาก่อนได้ แหม่ พูดทำเป็นเท่ห์ ความจริงคือเพื่อนอยากไปแล้วชวนเราไปเป็นเพื่อนแล้วเราตอบตกลงแค่นั้นแหละ 55555555 เราก็เลยไปมะจิคงกับเพื่อนแล้ว culture shock หลายเรื่องมากเว่ย
หลังจากที่เราจองรอบที่จะไปแล้วจะมีเมล์ติดต่อมาว่ามีอะไรที่เราต้องเตรียมไปบ้าง ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากนอกจากปากกาแหละ เรากับเพื่อนก็เดินทางไปที่ร้านอาหารในโรงแรมแห่งนึง พอถึงเข้าก็จะเช็คอายุ บัตรที่ยืนยันว่าเราคือตัวจริง แล้วเค้าก็จะให้ใบมากรอก แต่ละที่น่าจะไม่เหมือนกัน ใบหน้าตาประมานนี้
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment